ทุกคนคงจะเคยมีความรู้สึกดี ๆ หรือมี “ความรัก” ให้กับใครสักคน และยิ่งในช่วงเดือนแห่งความรักแบบนี้ มองไปทางไหนก็เห็นความรักเต็มไปหมด แต่สำหรับบางคนความรักก็ไม่ได้สวยงามเสมอไป ด้วยปมในอดีตและประสบการณ์ความรักแย่ ๆ การเริ่มต้นความสัมพันธ์อาจทำให้บางคนถึงกับตัวสั่น ปากซีด เหงื่อออกผิดปกติ ซึ่งอาจเข้าข่าย “โรคกลัวความรัก” โรคกลัวชนิดหนึ่งที่ทำให้เราเลี่ยงการมีความรัก และหากไม่หันมาดูแลหัวใจตัวเองดี ๆ ก็อาจก็กระทบต่อการใช้ชีวิตในระยะยาวได้ วันนี้ พญ. เพ็ญชาญา อติวรรณาพัฒน์ จิตแพทย์ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านจิตเวช ศูนย์สุขภาพใจ รพ.วิมุต จะมาเล่าถึงอาการและสาเหตุของโรคกลัวความรัก พร้อมแนวทางการรักษา เพื่อให้เรามีความรักที่สดใสได้เหมือนทุกคน

โรคกลัวความรัก (Philophobia) คือ โรคกลัวเฉพาะเจาะจง (specific phobia)
ที่เหมือนกับโรคกลัวความสูงหรือกลัวเลือด แต่ในกรณีนี้คือการกลัวที่เกี่ยวข้องกับความรัก
ซึ่งผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะกลัวการเริ่มต้นความสัมพันธ์และกลัวการตกหลุมรัก และหากเริ่มรู้สึกชอบหรือมีคนเข้ามาจีบอาจรู้สึกเครียด
รวมถึงมีอาการทางกาย เช่น ตัวสั่น เหงื่อออก ปากซีด ใจสั่น แน่นอก หายใจไม่ออก
เป็นต้น พญ.เพ็ญชาญา อติวรรณาพัฒน์ อธิบายเพิ่มเติมว่า “จริง ๆ โรคนี้แต่ละคนก็มีอาการมากน้อยต่างกันไป บางคนอาจรู้สึกประหม่า
กลัว พยายามหลีกหนีคนที่เข้ามาสานความสัมพันธ์ หรืออาจถึงขั้นรีบจบความสัมพันธ์แบบกะทันหัน
ขึ้นอยู่กับว่ามีอาการกลัวมากน้อยขนาดไหน”
แผลในใจ-อดีตที่ไม่สวยงาม ส่องสาเหตุ “โรคกลัวความรัก”
โรคกลัวความรักสามารถเกิดได้กับทุกคน โดยมีสาเหตุจากการพบเจอเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับความรักที่ไม่ดี
จนเกิดอาการกลัวขึ้นมา เช่น
ผู้ที่เห็นความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ไม่ดีในวัยเด็ก พ่อแม่หย่าร้างกัน
เห็นพ่อแม่ทะเลาะกัน หรือไม่ได้รับความสนใจ รู้สึกถูกทอดทิ้ง ส่วนบางกลุ่ม
ในช่วงวัยรุ่นที่เริ่มมีความรัก อาจเคยถูกปฏิเสธ หรือมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีจนสร้างบาดแผลในใจส่วนอีกกลุ่มคือกลุ่มที่ไม่ได้รับความรักเพียงพอ
เช่น เด็กที่เปลี่ยนที่อยู่ไปเรื่อย ๆ จึงกลัวการสร้างความสัมพันธ์เพราะรู้สึกว่าความรักหรือความสัมพันธ์เป็นสิ่งที่ไม่มั่นคง
“คนที่ผิดหวังในความรักก็ไม่ได้ต้องเป็นโรคนี้ทุกคน อยู่ที่ว่าแต่ละคนเจอมาหนักขนาดไหนหรือรับมือกับมันได้เท่าไหร่
สมมติว่าเราเจอมาหนัก แต่เรารับมือได้ดี มีครอบครัวหรือเพื่อนคอยช่วยเหลือ มันก็อาจเป็นแค่แผลเล็ก
ๆ กลับกันถ้าเราเกิดรับมือไม่ไหว ความรักก็อาจเป็นเรื่องน่ากลัวจนกลายเป็นโรคกลัวความรักไปเลย”
พญ. เพ็ญชาญา อติวรรณาพัฒน์ กล่าวเสริม
บางคนอาจสงสัยกว่าการเป็นโรคกลัวความรักจะนำไปสู่การเข้าสังคมไม่ได้หรือเปล่า
เพราะผู้ป่วยมักจะหลีกเลี่ยงการสร้างความสัมพันธ์ ซึ่งจริง ๆ คือไม่ได้มีผลแต่อย่างใด
เพราะโรคนี้จะเกี่ยวข้องกับการกลัวความสัมพันธ์เชิงโรแมนติกเท่านั้น เพราะฉะนั้นผู้ที่มีภาวะนี้ยังสามารถมีเพื่อนหรือทำงานร่วมกับผู้อื่น
และสามารถเข้าสังคมได้ตามปกติ
โรคกลัวความรัก บำบัดสม่ำเสมอก็หายได้
คนที่เป็นโรคกลัวความรักสามารถสังเกตอาการตัวเองได้ไม่ยาก โดยหากรู้สึกหวาดกลัวความสัมพันธ์จนเกิดเป็นความวิตกกังวล
เก็บไปฝันร้าย หรืออาการอื่น ๆ ที่รู้สึกว่ารบกวนการใช้ชีวิต
ก็นับว่าเป็นโรคกลัวความรักแล้ว ซึ่งแนะนำให้มาปรึกษาแพทย์เพื่อหาแนวทางการรักษา พญ.
เพ็ญชาญา อติวรรณาพัฒน์ เล่าถึงกระบวนการรักษาว่า “โดยปกติการรักษาโรคกลัวความรัก
จะมีวิธีรักษาเหมือนโรคกลัวอื่น ๆ โดยเน้นปรับความนึกคิด
และใช้วิธีพฤติกรรมบำบัดความกลัว ซึ่งผู้ป่วยต้องค่อย ๆ
ทำความเข้าใจกับสาเหตุที่ทำให้เรามีอาการกลัวโรคนี้ จากนั้นจึงปรับความคิดไปทีละนิด
หรือบางคนอาจใช้วิธีเผชิญหน้ากับความกลัว จนเริ่มคุ้นชินกับมัน
บางกลุ่มอาจใช้วิธีเริ่มสร้างสัมพันธ์แบบค่อยเป็นค่อยไป ก็จะช่วยให้เราสบายใจมากขึ้นและมีความรักได้โดยไม่มีอาการกลัว”
ผู้ที่สนใจต้องการปรึกษาแพทย์โรงพยาบาลวิมุต
สามารถติดต่อได้ที่ ชั้น 18 ศูนย์สุขภาพใจ
หรือโทรนัดหมาย 02-079-0078 เวลา 08.00-17.00 น. หรือใช้บริการ Telemedicine ปรึกษาแพทย์ออนไลน์ผ่าน
ViMUT App คลิก https://bit.ly/372qexX
No comments:
Post a Comment