เวียตเจ็ทเปิดตัวบริการเที่ยวบินใหม่ระหว่างฮานอยและกัวลาลัมเปอร์ เสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างสองประเทศ พร้อมสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างเวียดนามและมาเลเซีย รวมถึงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พิธีเปิดตัวได้รับเกียรติจากนาย To Lam เลขาธิการใหญ่ของเวียดนาม ร่วมเป็นสักขีพยานในโอกาสการเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการ
การเปิดตัวเส้นทางบินใหม่นี้สอดคล้องกับการยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างเวียดนามและมาเลเซียสู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุม นับเป็นการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ สำหรับความร่วมมือและการพัฒนาในหลากหลายมิติ เส้นทางบินฮานอย-กัวลาลัมเปอร์ เชื่อมโยงสองเมืองหลวงสำคัญ พร้อมเสริมสร้างการเชื่อมต่อด้านการบินในภูมิภาค รวมถึงมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ระหว่างสองประเทศเส้นทางบินฮานอย–กัวลาลัมเปอร์ จะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป ด้วยความถี่ 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ นับเป็นเส้นทางบินที่สองของเวียตเจ็ทที่เชื่อมโยงระหว่างเวียดนามและมาเลเซีย ต่อจากเส้นทางโฮจิมินห์ -กัวลาลัมเปอร์ ที่เปิดตัวในปี 2559 การเพิ่มเส้นทางบินใหม่นี้จะช่วยเพิ่มจำนวนเที่ยวบินระหว่างสองประเทศเป็นสองเท่า รวมเป็น 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เพื่อตอบสนองความต้องการเดินทางที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องระหว่างเวียดนามและมาเลเซีย
เมืองหลวงของมาเลเซียและเวียดนามเป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ กัวลาลัมเปอร์เป็นที่รู้จักจากตึกแฝดเปโตรนาส อาคารแฝดที่สูงที่สุดในโลก และวัฒนธรรมอาหารที่หลากหลายซึ่งผสมผสานระหว่างอาหารมาเลย์ จีน และอินเดีย นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับความงามของเขตนิเวศและป่าฝนเขตร้อนที่อยู่ใกล้เมืองได้อย่างสะดวกสบาย ขณะเดียวกัน ฮานอยดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น ป้อมปราการหลวงทังลองและทะเลสาบฮว่านเกี๊ยม พร้อมทั้งวัฒนธรรมอาหารสตรีทฟู้ดส์อันเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังเป็นประตูสู่จุดหมายปลายทางยอดนิยมอื่นๆ ในเวียดนาม พร้อมมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับผู้มาเยือน
ผู้นำจากทั้งสองประเทศร่วมแสดงความยินดี พร้อมทั้งชื่นชมความสำคัญของบริการบนเส้นทางบินใหม่นี้ โดยเชื่อมั่นว่าการเชื่อมต่อระหว่างฮานอยและกัวลาลัมเปอร์จะช่วยยกระดับความร่วมมือทวิภาคี ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์ที่ครอบคลุมระหว่างเวียดนามและมาเลเซีย พร้อมทั้งส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันของอาเซียน
No comments:
Post a Comment