McLaren (แมคลาเรน) รถซูเปอร์คาร์ และไฮเปอร์คาร์สัญชาติอังกฤษ เปิดตัวอัลตร้าซูเปอร์คาร์สุดเอ็กคลูซีฟ “McLaren W1” ที่สุดแห่งความเร็ว ทรงพลัง สืบทอดตำนานจาก F1 และ P1 เพื่อสร้างประสบการณ์ขับขี่ระดับสูงสุด โดดเด่นด้วยดีไซน์ล้ำยุค สมรรถนะเหนือชั้นและเทคโนโลยีที่ไม่เคยมีมาก่อน เพียง 399 คันทั่วโลก พร้อมมอบสิทธิพิเศษในการครอบครองนาฬิกาหรู “Richard Mille” รุ่น “RM 65-01 McLaren W1”
“McLaren W1” อัลติเมตคาร์รุ่นล่าสุด มาพร้อมสมรรถนะขั้นสุด สานต่อตำนานจากรุ่น McLaren F1 และ McLaren P1 โดย W1 ได้รับการยกย่องว่าเป็นที่สุดของรถซูเปอร์คาร์ ด้วยสมรรถนะระดับแนวหน้า มาพร้อมขุมพลัง ระบบไฮบริด เครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบชาร์จ (MHP-8) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังรวมสูงสุด 1,275 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,340 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 350 กม./ชม. ขณะที่ระบบส่งกำลังด้วย เกียร์อัตโนมัติ DCT 8 จังหวะ พร้อม E-Reverse (ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับการถอยหลัง) แบตเตอรี่: 1.384 kWh วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ 2.6 กิโลเมตร น้ำหนัก: 1,399 กิโลกรัม อัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนัก: 911 แรงม้า/ตัน (ดีที่สุดในรถระดับเดียวกัน) มิติตัวรถ: ยาว 4,635 มม., กว้าง 2,191 มม., สูง 1,182 มม., ระยะฐานล้อ 2,680 มม.
นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชั่น Active Long Tail สปอยเลอร์หลังที่รวมเป็นส่วนหนึ่งกับตัวถัง ช่วยเพิ่มแรงกดและ Aerodynamic/ Active Chassis Control III ระบบช่วงล่างแบบแอคทีฟ ปรับแต่งการขับขี่ตามสภาพถนนและโหมดการขับขี่ที่หลากหลาย เช่น โหมด Race ที่ปรับแต่งรถสำหรับการขับขี่ในสนามแข่ง หรือ ระบบ E-Module ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ที่ใช้สำหรับการถอยหลัง และสตาร์ทรถ
เหนือชั้นด้านความปลอดภัยด้วย McLaren Carbon Ceramic Racing+ (MCCR+) ซึ่งเป็นระบบเบรกคาร์บอนเซรามิกที่ผ่านการทดสอบบนสนามแข่ง พร้อมจานเบรกขนาด 390 มม.ที่มีชั้นเซรามิกเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งชั้น อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ W1 เพื่อความทนทานที่เหนือกว่า เพิ่มประสิทธิภาพในการเบรกให้ดียิ่งขึ้น เบรกหน้าทำงานด้วยคาลิปเปอร์ 6 สูบ และเบรกหลังทำงานด้วยคาลิปเปอร์ 4 สูบ ทั้งคู่เป็นแบบ Monobloc นอกจากนี้ยังช่วยลดน้ำหนักได้มากขึ้นด้วยการรวมเอาเบรกมือไฟฟ้าไว้ที่คาลิปเปอร์หลัง ซึ่งยังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของระบบอีกด้วย
ทั้งนี้ McLaren W1 ได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบจากรถแข่ง F1 GTR ในปี 1997 ที่ใช้เทคโนโลยี Ground Effect Aerodynamics ที่ช่วยเพิ่มแรงกด และเสถียรภาพ ที่สำคัญ ผลิตจำกัด เพียง 399 คันทั่วโลกเท่านั้น
ทั้งนี้ McLaren W1 ได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบจากรถแข่ง F1 GTR ในปี 1997 ที่ใช้เทคโนโลยี Ground Effect Aerodynamics ที่ช่วยเพิ่มแรงกด และเสถียรภาพ ที่สำคัญ ผลิตจำกัด เพียง 399 คันทั่วโลกเท่านั้น
ไม่เพียงเท่านั้น McLaren ยังได้ร่วมมือกับ Richard Mille สร้างปรากฏการณ์ใหม่แห่งวงการยานยนต์ และนาฬิกาหรู ด้วยการเปิดตัวซูเปอร์คาร์รุ่นล่าสุดควบคู่ไปกับนาฬิกาข้อมือรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น RM 65-01 McLaren W1 ผลงานชิ้นเอกที่ผสานรวมดีไซน์ล้ำสมัย และกลไกอันซับซ้อนอย่างลงตัว ด้วยกลไก RMAC4 ทำงานด้วยความเร็ว 5Hz จับเวลาได้ละเอียดถึงเสี้ยววินาที ทำให้ทุกจังหวะการขับขี่มีความหมายทั้งระบบขึ้นลานเร็วพิเศษ หน้าปัดโปร่งแสง เผยให้เห็นกลไกไทเทเนียมเกรด 5 อันงดงาม ออกแบบมาเพื่อเป็นคู่หูที่สมบูรณ์แบบสำหรับเจ้าของ McLaren W1 โดยเฉพาะ
ทั้งนี้ ด้วยจำนวนการผลิตที่จำกัดเพียง 500 เรือนทั่วโลก ซึ่ง 399 เรือนแรก สงวนไว้สำหรับผู้เป็นเจ้าของ McLaren W1 ที่สามารถเลือกนาฬิกาให้ตรงกับหมายเลขแชสซีของรถได้ ส่วนที่เหลือจะจำหน่ายผ่านร้านค้าของ Richard Mille ทำให้ RM 65-01 McLaren W1 ไม่เพียงเป็นเพียงนาฬิกา แต่คือผลงานศิลปะที่สะท้อนถึงความหรูหราและเอกลักษณ์เฉพาะตัวของผู้เป็นเจ้าของอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ด้วยจำนวนการผลิตที่จำกัดเพียง 500 เรือนทั่วโลก ซึ่ง 399 เรือนแรก สงวนไว้สำหรับผู้เป็นเจ้าของ McLaren W1 ที่สามารถเลือกนาฬิกาให้ตรงกับหมายเลขแชสซีของรถได้ ส่วนที่เหลือจะจำหน่ายผ่านร้านค้าของ Richard Mille ทำให้ RM 65-01 McLaren W1 ไม่เพียงเป็นเพียงนาฬิกา แต่คือผลงานศิลปะที่สะท้อนถึงความหรูหราและเอกลักษณ์เฉพาะตัวของผู้เป็นเจ้าของอย่างแท้จริง
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ McLaren Bangkok ผ่านช่องทางออนไลน์ Facebook : McLarenBKK หรือ โทร.02-321-1111, 081-434-7777, 098-242-3287
No comments:
Post a Comment