กูรูหุ้นเชียร์ “ซื้อ” PTG ชี้พิกัดราคาสูงสุด 10.5 บ./หุ้น - Wows News

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Wednesday, March 19, 2025

กูรูหุ้นเชียร์ “ซื้อ” PTG ชี้พิกัดราคาสูงสุด 10.5 บ./หุ้น

คาดผลงานปี68 สดใส- Non-Oil-ระบบสมาชิก PT Max Card หนุน

      ประเมินกำไรสุทธิปีนี้ 1.4 พันลบ. เพิ่มขึ้น 39% จากปีก่อน


เซียนหุ้นพร้อมใจแนะ “ซื้อ” หุ้น PTG ให้กรอบราคา 9.00-10.5 บาทต่อหุ้น โดย บล.เอเซีย พลัส คาดกำไรปี 68 เติบโตต่อเนื่อง ประเมิน Dividend Yield เฉลี่ย 5-6% ต่อปี ให้ราคาเป้าหมาย 9.50 บาทต่อหุ้น ด้าน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดกำไรปีนี้อยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท เพิ่ม 27% จากปีก่อน รับแรงหนุนจากการขยายจำนวน Touchpoint, การเติบโตของธุรกิจ Non-Oil, กลยุทธ์บัตรสมาชิก, อุปสงค์น้ำมันฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวในประเทศ คงราคาเหมาะสม 9 บาทต่อหุ้น ขณะที่ บล. กรุงศรี ประมาณการกำไรสุทธิไว้ที่ราว 1.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% รับอานิสงส์ธุรกิจ Oil ที่คาดว่าค่าการตลาดน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อน เป็นราว 1.73 บาท/ลิตร และรายได้จากพันธุ์ไทย เพิ่มขึ้น 35% ตามการขยายสาขาหนุนรายได้โต


บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เผยแพร่บทวิเคราะห์หุ้น บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (PTG) โดยคงคำแนะนำ Outperform จากแนวโน้มกำไรปกติปี 2568 ที่เห็นการเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน และภาพระยะยาวยังมีความโดดเด่นด้านการเติบโตที่สูงในกลุ่มอุตสาหกรรมผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมัน พร้อมคาดหวังปันผลในระดับดี Dividend Yield เฉลี่ย 5-6% ต่อปี ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 9.50 บาทต่อหุ้น


สำหรับประเด็นที่น่าสนใจของ PTG คือ ปี 2568 ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตทั้งในส่วนของธุรกิจ Oil และ Non-Oilซึ่งธุรกิจน้ำมันตั้งเป้าขยายสถานีบริการน้ำมันเพิ่ม 50 สถานี มาอยู่ที่ 2,279 สถานี ยอดขายเติบโต 5-10% มาอยู่ราว 7.0-7.4 พันล้านลิตร, ธุรกิจ Non-Oil ที่ยังมีกาแฟพันธุ์ไทยเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก โดยจะขยายเพิ่มอีก 600 สาขา ไปสู่ 1,947 สาขา และสัดส่วนกำไรขั้นต้นขึ้นมาอยู่ที่ 30-35% จากปัจจุบันที่ 25%


รวมถึงยังตั้งเป้างบลงทุนปี 2568 ที่ 3.0-4.0 พันล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจ Oil, กาแฟพันธุ์ไทย และอื่นๆ อีกทั้งปีนี้จะมุ่งเน้นการปรับปรุงรูปโฉมสถานีบริการน้ำมันเดิม ให้มีรูปแบบใหม่ที่ทันสมัย และมีผลิตภัณฑ์ครบครันต่อความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มยอดขายต่อสาขาเดิมให้เติบโต 20-30% ซึ่งยังมีส่วนช่วยเพิ่มรายได้กลุ่ม Non-Oil และแม้ว่าสภาวะการแข่งขันของกลุ่มสถานีบริการน้ำมันยังรุนแรง แต่ผู้บริหารมั่นใจจะมีส่วนแบ่งการตลาดเติบโต จากปัจจุบันที่ 21.9% โดยใช้เครือข่าย Max Card และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย


ทั้งนี้แม้ปัจจุบัน PTG ยังไม่ได้รับการจัดอันดับใน SET ESG Rating แต่อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทฯ ได้มีการเผยแพร่รายงานความยั่งยืน และกำหนดดัชนีชี้วัดในแต่ละด้าน ซึ่งฝ่ายวิจัยมีความเห็นว่า การดำเนินงานด้าน ESG ของ PTG ช่วยให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนในด้านการสร้างรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่รวมถึงยังมีการให้ความสำคัญทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยสามารถบรรลุกรอบเป้าหมายได้บางหัวข้อ ซึ่งคาดว่าจะช่วยส่งเสริมให้ PTG ได้รับการจัดอันดับ ESG ในอนาคต


ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินผลประกอบการปี 2568 ของ PTG จะสามารถเติบโตจากปีก่อนจากการขยายจำนวน Touchpoint, การเติบโตของธุรกิจ Non-Oil, กลยุทธ์บัตรสมาชิก, อุปสงค์น้ำมันฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวในประเทศ คงประมาณการกำไรปกติปี 2568 ที่ 1.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากปีก่อน คงราคาเหมาะสม 9 บาทต่อหุ้น แนะนำ ซื้อ จาก Valuation ไม่แพง ปัจจุบันซื้อขายบน PER 9.6 เท่า


ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) มอง slightly negative ในประเด็นค่าการตลาดน้ำมันของ PTG ที่ฟื้นตัวช้า โดยช่วงเดือนมกราคม 2568 มีแนวโน้มคงที่จากไตรมาส 4/2567 ที่ราว 1.65 บาท/ลิตร และผู้บริหารประเมินว่าการแข่งขันในตลาดและนโยบายรัฐอาจทำให้ค่าการตลาดน้ำมันไปเร่งในไตรมาส 2/2568 แทน สะท้อนแนวโน้ม Downside ของกำไรปี 2568 ทั้งนี้จากสภาวะที่ราคาน้ำมันดิบลดลงจากปีก่อน และภาครัฐลดภาระขาดทุนกองทุนน้ำมันได้ต่อเนื่อง


ฝ่ายวิจัยประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ราว 1.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% จากปีก่อน รับอานิสงส์จากฝั่ง Oil ที่คาดค่าการตลาดน้ำมันเพิ่มขึ้น 5% เป็นราว 1.73 บาท/ลิตร และ รายได้จากพันธุ์ไทยเพิ่มขึ้น 35% ตามการเร่งขยายสาขาส่งผลให้รายได้โตเฉลี่ย 28% CAGR ในช่วง 2568-2569 คาดว่ากำไรปกติโตสูงต่อเนื่องเฉลี่ย 31% CAGR ในช่วงเดียวกัน


ดังนั้นจึงแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 10.5 บาท/หุ้น หากรับความเสี่ยงกฎหมายคุมราคาน้ำมันได้ มอง PTG น่าสนใจ บนแนวโน้มการเติบโตทั้งธุรกิจ Oil ที่ค่าการตลาดน้ำมันมีแนวโน้มฟื้นตัวในระยะยาวจากแรงกดดันด้านต้นทุนที่ทยอยลดลง และ Non-Oil ที่ PunThai / Max Mart / Autobacs เติบโตต่อเนื่อง และทำได้ดีกว่าเป้า

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad