โมโตจีพี 2025 ผ่านไปแล้ว 4 สนาม ท่ามกลางการลุ้นแชมป์สุดเข้มข้น ขณะเดียวกัน แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยก็ได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ในการเชียร์เกมความเร็ว เพราะนี่คือฤดูกาลแรกในประวัติศาสตร์ที่มี "นักแข่งรถโมโตจีพีชาวไทยคนแรก" ลงแข่งขัน
"ก้อง" สมเกียรติ จันทรา ฮีโร่นักบิดชาวไทยเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของ "ไทยฮอนด้า" หลังเปิดตัวโครงการ "เรซ ทู เดอะ ดรีม" ในปี 2561 และทำงานอย่างหนักด้วยการเริ่มต้นนำระบบ "เรซซิ่ง อะคาเดมี่" อย่างจริงจังมาใช้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยเป็นครั้งแรก โดยมีเป้าหมายผลักดันนักแข่งไทยคนแรก เข้าสู่การแข่งขัน โมโตจีพี ซึ่งเป็นการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบระดับสูงสุดของโลกให้ได้ในปี 2025 ซึ่งมันคือภารกิจที่ยากสุดๆ และหากมององค์ประกอบ ณ เวลานั้น แทบจะมองไม่เห็นความเป็นไปได้ในเวลานั้น
"ไทยฮอนด้า" ปรับโครงสร้างสายงานมอเตอร์สปอร์ตใหม่แทบทั้งหมด เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทาง "เรซซิ่ง อะคาเดมี่" มาตรฐานระดับโลก ซึ่งนั่นคือกุญแจสำคัญของโร้ดแม็พนี้ เริ่มต้นด้วย "ฮอนด้า อะคาเดมี่ ไทยแลนด์" เพื่อสร้างพื้นฐานและเฟ้นหาเด็กไทยวัย 9-14 ปี ก่อนก้าวสู่ความท้าทายในการแข่งขันรายการ "ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ" เมื่อเติบโตขึ้นมีอายุระหว่าง 15-20 ปี
"ไทยฮอนด้า" ปรับโครงสร้างสายงานมอเตอร์สปอร์ตใหม่แทบทั้งหมด เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทาง "เรซซิ่ง อะคาเดมี่" มาตรฐานระดับโลก ซึ่งนั่นคือกุญแจสำคัญของโร้ดแม็พนี้ เริ่มต้นด้วย "ฮอนด้า อะคาเดมี่ ไทยแลนด์" เพื่อสร้างพื้นฐานและเฟ้นหาเด็กไทยวัย 9-14 ปี ก่อนก้าวสู่ความท้าทายในการแข่งขันรายการ "ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ" เมื่อเติบโตขึ้นมีอายุระหว่าง 15-20 ปี
"เพชรเม็ดงาม" จากโครงการนี้จะถูกคัดเลือกเข้าสู่ศึกดาวรุ่งชิงแชมป์เอเชีย รายการ "เอเชีย ทาเลนต์ คัพ" ก่อนจะผลักดันสู่ "จูเนียร์จีพี" และ "โมโตจีพี รุกกีส์ คัพ" สองรายการสำคัญของศึกดาวรุ่งชิงแชมป์โลกซึ่งมีปลายทางที่การแข่งขันระดับโลกเวิลด์กรังด์ปรีซ์ ในรุ่นโมโตทรี, โมโตทู และจุดสูงสุดคือ โมโตจีพี
เวลานั้น "ก้อง-สมเกียรติ" คือนักบิดระดับเยาวชนของ ฮอนด้า ที่ฉายแววอย่างโดดเด่น ด้วยดีกรีแชมป์จากรายการ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ 2016 ดาวรุ่งชาวไทยถูกผลักดันขึ้นสู่ศึกดาวรุ่งชิงแชมป์โลก รายการ ซีอีวี โมโตที จูเนียร์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ในปี 2017-2018 ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นหัวหอกของโครงการ "ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม" ในปี 2019 ด้วยการถูกโปรโมตเข้าสู่ โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ในปีนั้น
เส้นทางนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ "ก้อง-สมเกียรติ" ใช้เวลาฝึกฝนและพัฒนาฝีมือถึง 3 ปี ก่อนที่ชัยชนะครั้งแรกในรุ่น โมโตทู จะมาถึง ในการแข่งขัน อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์ 2022 ซึ่งนั่นเป็นผลจากความพยายามทุ่มเทฝึกฝนอย่างหนัก ภายใต้การสนับสนุนทุกด้านจาก "ไทยฮอนด้า"
ขณะที่หัวหอกอย่าง "ก้อง-สมเกียรติ" เดินหน้าสร้างผลงานใน โมโตทู เขาเองก็พัฒนาตัวเองทั้งด้านทักษะการขับขี่ สมรรถนะร่างกายและจิตใจ "ไทยฮอนด้า" ก็ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการ "ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม" ให้ยกระดับอย่างเข้มข้น เพื่อสร้างนักบิดระดับเยาวชนแบบไม่ย่อท้อ และ "ก๊องส์" ธัชกร บัวศรี คือดาวรุ่งคนถัดมาที่ก้าวเข้าสู่การแข่งขันระดับเวิลด์กรังด์ปรีซ์ ในรุ่น โมโตทรี ในปี 2024
ขณะที่หัวหอกอย่าง "ก้อง-สมเกียรติ" เดินหน้าสร้างผลงานใน โมโตทู เขาเองก็พัฒนาตัวเองทั้งด้านทักษะการขับขี่ สมรรถนะร่างกายและจิตใจ "ไทยฮอนด้า" ก็ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการ "ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม" ให้ยกระดับอย่างเข้มข้น เพื่อสร้างนักบิดระดับเยาวชนแบบไม่ย่อท้อ และ "ก๊องส์" ธัชกร บัวศรี คือดาวรุ่งคนถัดมาที่ก้าวเข้าสู่การแข่งขันระดับเวิลด์กรังด์ปรีซ์ ในรุ่น โมโตทรี ในปี 2024
"ไทยฮอนด้า" ทำฝันของชาวไทยให้เป็นจริง... ในปี 2025 "ก้อง-สมเกียรติ" การันตีเป็นนักบิดโมโตจีพีชาวไทยคนแรก ด้วยสัญญา 2 ปี กับต้นสังกัด อิเดมึตสิ ฮอนด้า แอลซีอาร์ และกำลังทำงานอย่างหนักหลังผ่าน 4 สนามแรกที่ บุรีรัมย์, อาร์เจนติน่า, สหรัฐอเมริกา และล่าสุดที่ กาตาร์ ด้วยพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การปรับตัวจาก โมโตทู สู่ โมโตจีพี ไม่ใช่เรื่องงง่าย นักแข่งแต่ละคนใช้เวลาแตกต่างกัน ด้วยน้ำหนักรถแข่งที่เพิ่มขึ้น พละกำลังเครื่องยนต์ที่แตกต่างมหาศาล เทคโนโลยีและระบบสั่งการต่างๆ ที่ต้องทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ รวมถึงความเร็วระดับสุดยอด นั่นนำมาซึ่งงานยากในการค้นหาความลงตัว
"ก้อง-สมเกียรติ" เลื่อนชั้นขึ้นสู่ "พรีเมียร์คลาส" ในช่วงเวลาที่ท้าทายของ ฮอนด้า ในการพัฒนารถแข่ง RC213V เพื่อกลับสู่ความยิ่งใหญ่ให้ได้อีกครั้ง ซึ่งนอกจากการจดจ่อกับการปรับตัวกับรถแข่ง โมโตจีพี ซึ่งเป็นงานสุดหินแล้ว นักบิดไทยยังต้องทำงานอย่างหนักร่วมกับวิศกรของ HRC เพื่อค้นหาพื้นฐานของรถแข่งคันใหม่
ประกอบกับการเดินทางแข่งขัน 22 สนามทั่วโลก จึงเหมือนการเริ่มต้นทำงานใหม่ในสนามที่ลงแข่งขัน ซึ่งแม้จะเป็นงานสุดหิน แต่เลือดนักสู้จากประเทศไทย ไม่มีคำว่ายอมแพ้แน่นอน... โดยในทุกๆ กรังด์ปรีซ์ นักบิดชาวไทยก็สร้างความพอใจให้กับทีมในแง่ของการยกระดับความเร็ว
ประกอบกับการเดินทางแข่งขัน 22 สนามทั่วโลก จึงเหมือนการเริ่มต้นทำงานใหม่ในสนามที่ลงแข่งขัน ซึ่งแม้จะเป็นงานสุดหิน แต่เลือดนักสู้จากประเทศไทย ไม่มีคำว่ายอมแพ้แน่นอน... โดยในทุกๆ กรังด์ปรีซ์ นักบิดชาวไทยก็สร้างความพอใจให้กับทีมในแง่ของการยกระดับความเร็ว
โดยสุดสัปดาห์นี้จะเป็นการแข่งขันสนามที่ 5 ของฤดูกาลที่ เซอร์กิโต เด เฮเรซ - อังเคล นิเอ็ตโต้ ประเทศสเปน ในรายการ สแปนิช กรังด์ปรีซ์ ซึ่งจะยังคงเป็นงานที่ท้าทายความสามารถอย่างมาก และถือเป็นสนามแรกในโซนยุโรป
เมื่อภารกิจในการสร้างนักแข่งไทยในโมโตจีพีสำเร็จ... "ไทยฮอนด้า" ยังคงสานต่อโปรเจ็กต์ใหม่ "The Next Successors" คือการค้นหาผู้สืบทอดรุ่นต่อไป หรือพูดกันง่ายๆ ก็คือการปั้นนักบิดไทยคนต่อไป ที่จะก้าวขึ้นมาสานต่อความสำเร็จในแบบเดียวกันนี้
เมื่อภารกิจในการสร้างนักแข่งไทยในโมโตจีพีสำเร็จ... "ไทยฮอนด้า" ยังคงสานต่อโปรเจ็กต์ใหม่ "The Next Successors" คือการค้นหาผู้สืบทอดรุ่นต่อไป หรือพูดกันง่ายๆ ก็คือการปั้นนักบิดไทยคนต่อไป ที่จะก้าวขึ้นมาสานต่อความสำเร็จในแบบเดียวกันนี้
ปัจจุบันโครงการ "ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม" ยังคงเดินหน้าเฟ้นหานักบิดไทยฝีมือดีอย่างต่อเนื่อง เพราะการพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย คือภารกิจที่ไม่สามารถหยุดเดินได้แม้แต่ก้าวเดียว และนี่คือเส้นทางจากจุดเริ่มต้นไปสู่ความฝันที่ไม่มีวันหมดของ "ไทยฮอนด้า"
แฟนมอเตอร์สปอร์ตส่งกำลังใจเชียร์ "ก้อง" สมเกียรติ จันทรา นักบิดโมโตจีพีชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ และนักบิดฮอนด้า ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กฮอนด้าเรซทูเดอะดรีม: https://facebook.com/HondaRacingTeamTH
#HondaRacingThailand #RaceToTheDream #Motorsport #MotoGP #HondaBigBike #HondaRC213V #LCRHondaTeam #LCRHonda #IdemitsuHondaLCR #SC35 #Kong #TheFirstThaiRiderInMotoGP
No comments:
Post a Comment