ในยุคที่ความปลอดภัยบนท้องถนนในประเทศไทยยังคงเป็นประเด็นที่ต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทักษะและความชำนาญของผู้ขับขี่ จึงกลายเป็นปัจจัยที่มีผลต่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินตามไปด้วย โดยเฉพาะ “รถบรรทุก” ยานพาหนะที่มีส่วนสำคัญ ในภาคธุรกิจอุตสาหกรรมเพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจมหภาค เป็นฟันเฟืองเบื้องหลังชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของคนในสังคม ด้วยภารกิจในการขนส่งสินค้าจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง เพื่อให้ผู้คนเข้าถึงทรัพยากรต่าง ๆ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างเท่าเทียมกัน ในทุกพื้นที่ บนถนนกว่า 7 แสนกิโลเมตรในประเทศไทย ด้วยรถบรรทุกจำนวนมากกว่า 1.1 ล้านคัน ดังนั้น ความปลอดภัยของการขับรถบรรทุกจึงมีผลต่อความปลอดภัยของคนใช้รถใช้ถนนด้วยเช่นกัน พนักงานขับรถที่มีคุณภาพและความสามารถจะช่วยให้ ท้องถนนมีความปลอดภัย และพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน
หนึ่งคันปลอดภัย หลายคนอุ่นใจ
บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด
ในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่นคุณภาพสูง
และให้ความสำคัญกับความปลอดภัย รวมถึงการส่งเสริมความปลอดภัยทางถนนอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งเป็นการสนับสนุนนโยบายของภาครัฐ ในการขับเคลื่อนงานด้านความปลอดภัยทางถนนให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน
จึงได้ริเริ่ม “โครงการขับรถบรรทุกปลอดภัย สร้างทักษะใหม่กับเชลล์”
โดยร่วมมือกับ โรงเรียนทักษะพิพัฒน์ โรงเรียนสอนขับรถ โดย บริษัท เอสซีจี
สกิลล์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เพื่อมอบโอกาสการส่งเสริมทักษะการขับรถบรรทุกอย่างปลอดภัยตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด
ให้กับผู้ที่สนใจที่ต้องการยกระดับทักษะการขับขี่รถบรรทุกเพื่ออาชีพ
โดยมุ่งปลูกฝังจิตสำนึกการขับรถทางถนนอย่างปลอดภัยให้กับตนเองและสังคม
ควบคู่ไปกับการสร้างโอกาสทางอาชีพให้กับเศรษฐกิจภาคครัวเรือน
และสนับสนุนพันธกิจและเป้าหมายหลักของกรมขนส่งทางบก ในการลดอุบัติเหตุทางท้องถนน และส่งเสริมวัฒนธรรมการขับรถอย่างปลอดภัยนางสาวอรอุทัย ณ เชียงใหม่ ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์ แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “กว่า 131 ปีในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย
ความปลอดภัยเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่สำคัญของเชลล์ที่ถูก นำมาใช้ในการปฏิบัติงานทุกขั้นตอน และได้ส่งต่อวัฒนธรรมนี้ไปยังผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจกับ
เชลล์ รวมถึงบนเส้นทางกว่า 700,000 กิโลเมตร ในการขนส่งและส่งมอบน้ำมันคุณภาพสูงของเชลล์สู่ผู้บริโภคทั่วทุกภูมิภาค ในประเทศไทย ภายใต้ Powering Progress ที่ไม่เพียงแต่มุ่งมั่นพัฒนาและส่งมอบพลังงานสู่ผู้บริโภคอย่างปลอดภัย แต่ยังมุ่งผสานความร่วมมือและสร้างคุณค่าให้กับพันธมิตรทุกภาคส่วนในระบบ Eco-system ทั้งหมดของเรา ซึ่งรวมถึงพนักงาน คู่ค้าทางธุรกิจ
ผู้บริโภค ชุมชนท้องถิ่นและสิ่งแวดล้อม จึงเกิดเป็นความร่วมมือกับโรงเรียนทักษะพิพัฒน โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ การส่งเสริมการขับรถปลอดภัยบนท้องถนนควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ขับขี่รถบรรทุก สร้างโอกาสทางอาชีพให้กับเศรษฐกิจภาคครัวเรือนและสนับสนุนความปลอดภัยทางถนนในภาพรวมของประเทศ”
นายบรรณ เกษมทรัพย์ ประธานกรรมการบริหารร่วม บริษัท เอสซีจี
เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
“เอสซีจีตระหนักดีถึงความสำคัญของความปลอดภัยบนท้องถนน
จึงได้ก่อตั้งโรงเรียนทักษะพิพัฒน์ขึ้น
โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาทักษะและศักยภาพของบุคลากรด้านการขนส่งผ่านกระบวนการฝึกอบรมขับรถบรรทุกอย่างถูกต้องและปลอดภัยโดยมืออาชีพ
เสริมสร้างทัศนคติเชิงบวกเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับรถและใช้ถนนอย่างปลอดภัย
มุ่งสร้างสุภาพบุรุษนักขับ Smart Driver ที่ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี
เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมการขับรถปลอดภัยและคุณภาพชีวิตให้กับสังคม ตลอดระยะเวลา 2
ปีที่เราเป็นพันธมิตรกับเชลล์ บริษัทพลังงาน
ระดับโลกที่ร่วมยึดถือคุณค่าของความปลอดภัย
ได้สนับสนุนส่งเสริมพัฒนาบุคลากรผู้ขับรถบรรทุก หนึ่งในฟันเฟืองสำคัญของภาคขนส่ง
อย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าได้อย่างมั่นคงต่อไป”
โครงการขับรถบรรทุกปลอดภัย สร้างทักษะใหม่กับเชลล์ปีที่ 2
ในครั้งนี้ได้จัดกิจกรรมตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม 2566
มีผู้สำเร็จการอบรมจากโครงการฯ กว่า 270 คน
สะท้อนถึงความใส่ใจของผู้เข้าร่วมโครงการต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตในด้านความปลอดภัยและหาโอกาสทางอาชีพเพื่อครอบครัว
โดยโครงการฯ เปิดอบรม 2 หลักสูตรโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ได้แก่
หลักสูตรการอบรมและพัฒนาทักษะการขับขี่เพื่อขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถชนิดที่ 2
หรือ ชนิดที่ 3 ภายใต้หลักสูตรที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติไม่น้อยกว่า
30 ชั่วโมง ครอบคลุมเทคนิคการขับขี่อย่างถูกต้องและปลอดภัย การคาดการณ์อุบัติเหตุ
หน้าที่และความรับผิดชอบและมารยาทของผู้ขับขี่ ความรู้ด้านกฎหมายและกฎจราจร
รวมถึงการตรวจสอบความพร้อมของรถ เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมการขับขี่อย่างปลอดภัยนายนพพล พาธรรมะ หนึ่งในผู้เข้าร่วมโครงการฯ
เล่าถึงประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการเพื่อสร้างโอกาสทางอาชีพว่า “ในอดีต
สังคมอาจจะให้ความสำคัญกับอาชีพขับรถบรรทุกน้อยกว่าปัจจุบัน
มองว่าเป็นอาชีพทางเลือกท้ายๆ แต่ด้วยการขยายตัวทางการค้ามีการขนส่งมากขึ้น
ทำให้บริษัท-ห้างร้านต่างๆ ให้ความสำคัญกับการคัดเลือกพนักงานที่มีคุณภาพในอาชีพนี้มากขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนขับรถที่ต้องได้มาตรฐาน มีความรอบรู้
และใส่ใจในเรื่องความปลอดภัย
เพราะหากเกิดอุบัติเหตุก็จะส่งผลถึงความเสียหายของบริษัทด้วยเช่นกัน
ผมเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ จึงต้องการพัฒนาตัวเองให้มีความรู้ในการขับรถที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย
เพื่อให้บริษัทต่างๆ มั่นใจว่าผมสามารถทำงานให้ได้
และสามารถดูแลสินค้าให้ถึงที่หมาย โดยทำงานแล้วต้องปลอดภัยทั้งตัวผมเอง คนรอบข้าง
และทรัพย์สินของบริษัท
และสามารถยึดอาชีพการขับรถบรรทุกเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวต่อไปในอนาคตครับ”
มากกว่าความใฝ่ฝัน คือความมุ่งมั่นสู้เพื่อความสำเร็จ
ตลอด 2 ปีของการดำเนินโครงการขับรถบรรทุกปลอดภัย
สร้างทักษะใหม่กับเชลล์ ความสำเร็จของโครงการฯ ที่ได้รับ
ไม่ได้วัดเพียงแค่จำนวนผู้ที่สำเร็จอบรมที่มีเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
การแบ่งปันโอกาสอย่างเท่าเทียม การสนับสนุนความใฝ่ฝันทางอาชีพของผู้หญิงที่ต้องการจะก้าวสู่วงการขับรถบรรทุกมืออาชีพก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน"การขับรถบรรทุกมักถูกมองว่าเป็นเรื่องยาก
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เพียงเพราะว่าเราเป็นผู้หญิง” นางสาววิมุตตยา
พิรุฬห์รัตนะ ผู้เข้าร่วมโครงการฯ กล่าวด้วยรอยยิ้ม
พร้อมกับเล่าประสบการณ์ให้ฟังว่า “เมื่อก่อนทำอาชีพเสริมสวย
ต่อมาได้รู้จักครอบครัวอื่นที่มีอาชีพขับรถบรรทุกและมีรายได้สม่ำเสมอ
จึงอยากลองเปลี่ยนอาชีพดูบ้าง แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง
ต่อมารู้ว่าเชลล์มีโครงการขับรถบรรทุกปลอดภัย เปิดรับสมัครโดยไม่จำกัดเพศ
จึงสมัครเข้ามาและได้รับคัดเลือกเรียนขับรถบรรทุก
จนสามารถประกอบอาชีพเป็นพนักงานขับรถ บรรทุก 18 ล้อได้
ตัวเองดีใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสังคมปลอดภัยร่วมกับองค์กรระดับโลก ผ่านอาชีพการขับรถบรรทุกที่รัก
ทำให้สามารถยืนอยู่ในวงการนี้ได้อย่างมั่นคง
และได้รับการยอมรับในตัวตนอย่างแท้จริง”
หลังจากเรียนจบการอบรมหลักสูตรใบอนุญาตขับขี่ชนิดที่ 3 (ท.3)
จากโครงการฯ ปัจจุบัน นางสาววิมุตตยาได้รับใบอนุญาตขับขี่ ท.4
สำหรับขับรถบรรทุกขนส่งวัตถุอันตรายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ถือเป็นใบอนุญาตขับรถบรรทุกขั้นสูงสุดในสายอาชีพนี้ด้านนางสาวอรพรรณ นากฉาบ อีกหนึ่งผู้เข้าร่วมอบรมในโครงการฯ
กล่าวถึงโอกาสที่ได้รับว่า “การชอบเดินทางเป็นจุดเริ่มต้นของการมาเรียนขับรถบรรทุก
โดยเริ่มเรียนรู้จากคนขับรถบรรทุกอาชีพ แต่ก็มีหลายครั้งที่รู้สึกว่าตัวเองแก้ไขปัญหาระหว่างขับรถบนท้องถนนได้ไม่ดีพอ
ต่อมารู้ว่าโครงการขับรถบรรทุกปลอดภัยสร้างทักษะใหม่กับเชลล์เปิดรับสมัครให้คนที่สนใจเข้าร่วมโครงการฟรี
ก็คิดว่าจะได้ทำสิ่งที่ชอบให้เป็นอาชีพอย่างจริงจัง เลยมาสมัครเข้าร่วมโครงการฯ
ซึ่งนอกจากจะได้ความรู้เพื่อการขับขี่ที่ถูกต้องแล้ว
ยังมีเทคนิคที่ช่วยให้สามารถตัดสินใจต่อสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้รวดเร็วและปลอดภัย
โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของทุกคนไม่ใช่แค่ตัวเรา
และแน่นอนว่าได้รับงานมากขึ้นจากการพัฒนาทักษะการขับรถที่ได้มาตรฐานระดับมืออาชีพ
ทำให้คุณภาพชีวิตของตัวเองและครอบครัวดีขึ้นมากตามไปด้วย”

No comments:
Post a Comment