นายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ รองเลขาธิการ ด้านกฎหมาย คดีและคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (รองเลขาธิการ ด้านกฎหมายฯ) เปิดเผยถึงการดำเนินการและแนวทางป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล สำหรับธุรกิจประกันภัยว่า จากกรณีเมื่อช่วงปลายปี 2566 มีเฟซบุ๊คแฟนเพจ และสื่อโซเชียลอื่น ๆ ลงข้อความว่า “โบรกเกอร์ของบริษัทประกันภัยชื่อดัง ลักลอบนำข้อมูลส่วนบุคคลนับล้านรายชื่อขายให้มิจฉาชีพ” และต่อมากองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 ได้สืบสวนขยายผลจากการจับกุมผู้กระทำความผิด ซึ่งเป็นอดีตตัวแทนประกันชีวิต ได้กระทำการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เอาประกันภัย และนำข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปขายให้บุคคลภายนอกเพื่อประโยชน์ส่วนตน โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัยแต่อย่างใด นั้น
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
(สำนักงาน คปภ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า
ตัวแทนประกันชีวิตรายดังกล่าวได้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พ.ศ. 2562 อันเป็นฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อ 37 แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการออก
และเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันชีวิตและการดำเนินการของตัวแทนประกันชีวิต
นายหน้าประกันชีวิต และธนาคาร พ.ศ. 2563 ที่ออกตามความในมาตรา 79/1
ในประการที่ก่อหรืออาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัย
ผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัยหรือประชาชน
อันเป็นพฤติการณ์ที่นายทะเบียนมีอำนาจสั่งเพิกถอนใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันชีวิตได้ตามมาตรา
81/1 (2) และ (6) แห่งพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
นายทะเบียนจึงได้มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันชีวิตของผู้ที่กระทำความผิดดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ.
ได้มีการบูรณาการการทำงานร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ เช่น
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) สมาคมประกันชีวิตไทย
สมาคมประกันวินาศภัยไทย สมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน
และสมาคมนายหน้าประกันภัยไทย เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการยกระดับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของภาคธุรกิจประกันภัยอย่างต่อเนื่อง
โดยได้ข้อสรุป ดังนี้
(1)
ขอให้สมาคมแจ้งสมาชิกให้ยกระดับการตรวจสอบและกำกับดูแลพฤติกรรมบุคคลในสังกัดให้ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
และไม่นำข้อมูลของผู้เอาประกันภัยไปใช้ในทางมิชอบด้วยกฎหมาย
(2) สำนักงาน คปภ.
เห็นควรเพิ่มความเข้มข้นในการกำกับดูแลในส่วนของการคัดกรองผู้ขอรับหรือต่ออายุใบอนุญาต
โดยการเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ในหลักสูตรการอบรม/การทดสอบความรู้สำหรับการขอรับและขอต่อใบอนุญาตตัวแทน/นายหน้าประกันภัย
รวมถึงการดำเนินการตรวจสอบตามความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจประกันภัย
(3) สำนักงาน คปภ.
จะยกระดับการตรวจสอบการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
โดยเริ่มกระบวนการตรวจสอบจากแบบประเมินตนเอง (Comprehensive
Questionnaire) และผลจากแบบประเมินจะนำมาประเมินความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เอาประกันภัย
และกำหนดมาตรการในการกำกับดูแลบริษัทประกันภัยต่อไป
(4) สคส.
จะพิจารณาและรับรองแนวปฏิบัติ (Guideline) สำหรับธุรกิจประกันภัยที่สำนักงาน คปภ.
และสมาคมภาคธุรกิจได้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นมาตรฐานสำหรับธุรกิจประกันภัยในการดำเนินการเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม
ทั้งนี้ รองเลขาธิการ ด้านกฎหมายฯ
กล่าวว่า การยกระดับแนวทางป้องกันการละเมิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สำหรับธุรกิจประกันภัยดังกล่าว
จะทำให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในระบบประกันภัยมีประสิทธิภาพ
ส่งเสริมความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อระบบประกันภัย และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของอุตสาหกรรมประกันภัยโดยรวมต่อไป
No comments:
Post a Comment