ทั้งนี้ การรับรอง “Best Place to Work 2023” จาก Work Venture สำรวจจากความพึงพอใจขององค์กร และพนักงาน มีความพึงพอใจกับวัฒนธรรมองค์กร ความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน สวัสดิการ รวมถึงโอกาสในการเติบโตในสายงานและอื่น ๆ ซึ่งการรับรองดังกล่าว เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า พนักงานในปัจจุบันเห็นว่าบริษัทของพวกเขาเป็นสถานที่ทำงานที่มีความสุข พร้อมโอกาสในการเติบโตทั้งบุคคลและในสายอาชีพ โดยสิ่งเหล่านั้นจะส่งต่อไปให้กับพนักงานที่จะเข้ามาร่วมกับองค์กรในอนาคต
“สหพัฒน์มีความภาคภูมิใจมาก ต้องขอขอบคุณทุกคนที่ให้ความสนใจที่จะร่วมงานด้วย ที่ผ่านมาหัวใจหลักขององค์กรคือ รูปแบบการทำงานแบบพี่สอนน้อง พนักงานที่อาวุโสจะมีการสอนงาน พูดคุยกับน้อง ๆ คนรุ่นใหม่ และน้อง ๆ เองก็สามารถพูดคุยกับพี่ ๆ ได้ตลอดเวลา เปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกันเปรียบเสมือนครอบครัว ผู้บริหารระดับสูงพร้อมรับความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่ เคารพเวลาส่วนตัวของพนักงาน เป็นการทำงานแบบ Work-life balance เรียกได้ว่าเป็นการประสานความคิดทั้งคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่และนำมาพัฒนาองค์กรต่อไปในอนาคต” นางนพวรรณ กล่าว
นับเป็นความภาคภูมิใจและเป็นความสําเร็จอีกก้าวหนึ่งของสหพัฒน์ กับรางวัลที่ได้รับสะท้อนถึงการบริหารองค์กรที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสหพัฒน์ยังคงมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ดีให้กับผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภคต่อไป
No comments:
Post a Comment