ในปัจจุบัน ปัญหาเกี่ยวกับเต้านม เป็นปัญหาของผู้หญิงโดยส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นก้อนเนื้อที่เต้านมชนิดไม่ร้ายแรงหรือถุงน้ำที่เต้านม ไปจนถึงก้อนเนื้อที่เป็นมะเร็ง โดยโรคมะเร็งเต้านม เป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยเป็นอันดับ 1 ของผู้หญิงทั่วโลก จากสถิติขององค์การอนามัยโลก มีผู้หญิงเป็นมะเร็งเต้านมกว่า 2 ล้านคนต่อปี และเสียชีวิตกว่า 685,000 รายทั่วโลก ในขณะที่ ข้อมูลจากกรมการแพทย์ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ พบว่า มีผู้หญิงไทยป่วยเป็นมะเร็งเต้านม 18,000 คนต่อปี หรือคิดเป็น 49 คนต่อวัน และเสียชีวิต 4,800 คนต่อปี หรือ 13 รายต่อวัน โดยจำนวนของผู้ป่วยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องทุกปี ทั้งนี้ ไม่ใช่แค่ผู้หญิงเท่านั้นที่เป็นมะเร็งเต้านม ประมาณ 0.5-1% ของมะเร็งเต้านมสามารถเกิดขึ้นได้ในผู้ชาย







ทั้งนี้ การผ่าตัดมะเร็งเต้านม
นอกจากความปลอดภัยของผู้ป่วยในการรักษาโรคให้หายขาด
เรายังคำนึงถึงความสวยงามของเต้านม
เพื่อรักษาอวัยวะที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้หญิงไว้อย่างดีที่สุด
โดยเราสามารถทำการผ่าตัดมะเร็งเต้านมออกแล้วเสริมใหม่ได้ทุกรูปแบบของเต้านม
ทั้งใช้เนื้อเยื่อหน้าท้อง เนื้อเยื่อด้านหลัง หรือการใช้ซิลิโคน
แม้แต่คนที่เคยผ่าตัดเต้านมออกไป 1 ข้าง แล้วอยากเสริมใหม่อีก 1 ข้าง
เราก็สามารถทำให้ทั้ง 2 ข้างเท่ากันได้นพ. หฤษฎ์ สุวรรณรัศมี
แพทย์ชำนาญการด้านมะเร็งวิทยา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อธิบายว่า
การรักษาผู้ป่วยมะเร็งเต้านมมีหลายวิธี เช่น การผ่าตัด การให้ยาเคมี การฉายแสง
การให้ยาต้านฮอร์โมน การให้ยามุ่งเป้า และการให้ยากลุ่มภูมิคุ้มกันบำบัด
ซึ่งการให้ยาผู้ป่วยหลังผ่าตัดมะเร็งเต้านมจะช่วยลดโอกาสของการกลับมาเป็นซ้ำ
โดยบำรุงราษฎร์มียาที่ได้รับการรับรองข้อบ่งใช้ในโรคมะเร็งแต่ละชนิดอย่างครอบคลุม
โดยเราจะเลือกยาให้เหมาะกับผู้ป่วยแต่ละราย นอกจากนี้
เรายังมีการตรวจการแสดงออกของยีนในตัวมะเร็ง (Genomic risk) เพื่อบอกโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำหลังผ่าตัดมะเร็งเต้านม
และหากเป็นมะเร็งเต้านมระยะเริ่มต้น
การตรวจยีนจะช่วยทำให้เรารู้ว่าหากต้องให้ยาเคมีบำบัด
ผู้ป่วยจะได้รับประโยชน์จากการให้ยาหรือไม่ ซึ่งเป็นการรักษาแบบ Precision
Oncology ทำให้แพทย์สามารถเจาะจงใช้ยารักษามะเร็งที่เหมาะสม
พร้อมวางแผนหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ตั้งแต่แรก
นพ. อภิชาต พานิชชีวลักษณ์
แพทย์ผู้ชำนาญด้านรังสีรักษาและมะเร็งวิทยา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อธิบายว่า
การฉายรังสีโรคมะเร็งเต้านมในปัจจุบัน การผ่าตัดจะเน้นทำการผ่าตัดแบบถนอมเต้านมไว้
ซึ่งต้องฉายรังสีร่วมด้วยเสมอ โดยผลการรักษาเทียบเท่ากับการผ่าตัดเต้านมออกและยังคงอวัยวะเต้านมนั้นไว้มีความสำคัญมากสำหรับสตรี
การรักษาในปัจจุบันใช้เวลาสั้นมากขึ้นจากเดิม 6 สัปดาห์เหลือเพียงแค่ 4 สัปดาห์
และในแต่ละครั้งของการใช้รังสีใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้
ยังมีเทคโนโลยีมาช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายขณะฉายแสง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหายใจ
ทำให้มีการความปลอดภัยต่ออวัยวะข้างเคียงไม่ว่าจะเป็นผิวหนัง ปอด หรือ หัวใจ
ในกรณีฉายแสงในมะเร็งเต้านมข้างซ้าย
แผนการรักษาด้วยรังสีรักษาจะมีการประชุมร่วมกับทีมแพทย์เพื่อหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมในผู้ป่วยแต่ละราย
ผศ.นพ. พลกฤต ทีฆคีรีกุล
แพทย์ชำนาญการด้านพันธุกรรม โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อธิบายว่า
การตรวจยีนผิดปกติที่ทำให้เกิดมะเร็งเต้านม
ควรเริ่มจากการดูประวัติของคนในครอบครัวที่เคยเป็นมะเร็งเต้านมหรือมะเร็งรังไข่
ซึ่งหากตรวจพบความผิดปกติของยีนที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งเต้านม
ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นมะเร็งเต้านม
เพียงแต่ทำให้มีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นกว่าคนปกติ การที่เราทราบถึงความเสี่ยงนี้
จะช่วยให้เราสามารถวางแผนป้องกันโรคได้ เช่น
ตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมตามกำหนดเวลาที่แพทย์แนะนำ
ซึ่งต้องตรวจบ่อยครั้งกว่าและเริ่มตรวจเมื่ออายุน้อยกว่าคนทั่วไป
โดยโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ใช้เทคโนโลยีในการตรวจวินิจฉัยยีนขั้นสูงที่เรียกว่า Next Generation Sequencing (NGS) ซึ่งให้ผลตรวจที่รวดเร็ว
ถูกต้อง และแม่นยำ“ทั้งนี้ ผู้หญิงทุกคนที่อายุมากกว่า
40 ปี ควรตรวจเต้านมเป็นประจำทุกปี
และปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม
เพราะการศึกษาพบว่ามะเร็งเต้านมจะมีอุบัติการณ์ที่เพิ่มมากขึ้นในผู้หญิงที่อายุมากกว่า
40 ปี ดังนั้น หากยิ่งมาตรวจได้เร็ว ก็จะรักษาได้ง่ายและมีโอกาสหายได้มากยิ่งขึ้น”
รศ. นพ. วิชัย วาสนสิริ หัวหน้าศูนย์เต้านม โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวทิ้งท้าย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ศูนย์เต้านม โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ โทร. 1378 หรือ 02 011 3694
No comments:
Post a Comment