ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รถยนต์ OMODA ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก การได้พบกับผู้มีอำนาจรัฐระดับสูงในประเทศต่าง ๆ ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแผนการพัฒนาของตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ในภูมิภาคนั้น อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการแข่งขันระดับโลกของ OMODA และแนวทางการพัฒนาตลาดต่างประเทศอันทรงพลังเพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละท้องถิ่นต่อไป
จุดเริ่มต้นภารกิจด้านความยั่งยืน กับการสร้างแบรนด์พลังงานใหม่ระดับโลก
หากวิเคราะห์กุญแจสำคัญในการสร้างความสำเร็จในการสร้างแบรนด์รถยนต์เชื้อเพลิงของแบรนด์ต่าง ๆ ทั่วโลกนั้น คือการสร้างผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างและแข่งขันได้ ซึ่งหลักการนี้ยังคงเป็นรากฐานที่สำคัญในการแข่งขันทางการตลาดของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าด้วยเช่นกันOMODA ไม่เพียงแค่มุ่งมั่นที่จะส่งมอบยานพาหนะที่ใช้พลังงานสะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแก่ผู้ใช้ทั่วโลกผ่านเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเท่านั้น แต่ยังมุ่งสร้างโลกแห่งอนาคตที่ดีขึ้นอีกด้วย ไม่เพียงเท่านี้ OMODA ยังคงไม่หยุดนิ่งกับการวิจัยและพัฒนาแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ทำให้รถยนต์ OMODA ยังคงความแข็งแกร่งของคุณลักษณะที่เป็นหัวใจในผลิตภัณฑ์ นั่นก็คือ ระบบ Tri-electric System สุนทรียะทางดีไซน์ และความอัจฉริยะของระบบต่าง ๆ อยู่เสมอ
รถยนต์ OMODA E5 รุ่นใหม่ มาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถขับได้ในระยะทางสูงสุด 430 กิโลเมตร รถยนต์รุ่นนี้สามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็วจาก 30% เป็น 80% ในเวลาเพียง 28 นาที ด้วยระบบชาร์จความเร็วสูง นอกจากนี้ รถยนต์ OMODA E5 ยังมีการออกแบบที่โดดเด่นในคอนเซ็ปต์ใหม่ “Light of Movement” ด้วยการผสมผสานระหว่างแสงและเงาที่มีไดนามิก ผ่านการนำเสนอสุนทรียภาพแห่งเทรนด์ที่ก้าวข้ามสู่โลกเสมือนจริง และสะกดจินตนาการของผู้พบเห็น ดึงดูดคนรุ่นใหม่ทั่วโลกโดยเฉพาะ ภายในรถยนต์ OMODA E5 มาพร้อมกับจอคู่ขนาด 24.6 นิ้ว ระบบแสงโดยรอบ 256 สี สวยงามล้ำสมัย และการออกแบบเกียร์ที่เรียบง่าย คู่กับฟังก์ชัน ADAS ระดับสูง 17 รายการ รวมถึงการตรวจสอบจุดบอด การเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ และการตรวจจับความเมื่อยล้าของผู้ขับ ทำให้มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ล้ำสมัยและชาญฉลาดแห่งยุค
ในขณะเดียวกัน รถยนต์ OMODA ยังคงรักษาเป้าหมายการสร้างสิ่งแวดล้อมสีเขียวทั่วโลกอย่างจริงจัง ผ่านโครงการเพื่อสังคมต่าง ๆ อาทิ ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา OMODA ได้ร่วมมือกับผู้ใช้งานจากกว่า 30 ประเทศและภูมิภาคเพื่อเปิดตัว “Ecological Ride” ในการประชุม “2023 International User Eco-Cooperation Conference” เพื่อรณรงค์ไลฟ์สไตล์คาร์บอนต่ำ และในวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา OMODA ได้ร่วมกิจกรรม “Run for Sustainability” ภายใต้แนวคิด “A New Journey to a New Green Life” ที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 3,000 คน นอกจากนี้ OMODA ยังได้ลงนามบันทึกความเข้าใจเชิงกลยุทธ์กับองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (International Union for Conservation of Nature หรือ IUCN) โดยมีเป้าหมายเพื่อเชื่อมประสานการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ที่จะมีส่วนสำคัญช่วยให้เกิดการพัฒนาโลกอย่างยั่งยืน
ในอุตสาหกรรมยานยนต์ พลังงานใหม่ถูกมองว่าเป็นโอกาสสำคัญที่จะสามารถปั้นแบรนด์เกิดใหม่ให้เติบโตแบบก้าวกระโดด แต่อย่างไรก็ตาม การพัฒนารถยนต์พลังงานใหม่นี้ไม่ใช่ทุกแบรนด์จะคว้าโอกาสดังกล่าวนั้นไว้ได้ มีเพียงแบรนด์ที่มีกลยุทธ์การพัฒนาอย่างชัดเจนเท่านั้นที่สามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้สร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ได้ ซึ่ง OMODA เป็นหนึ่งในนั้น ด้วยช่วงเวลาการเปลี่ยนผ่านที่สำคัญของการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมรถยนต์เชื้อเพลิงฟอสซิลไปสู่การใช้พลังงานไฟฟ้า OMODA จึงใช้โอกาสนี้พัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมรองรับความต้องการของตลาดทั่วโลก ด้วยศักยภาพดังกล่าวทำให้ OMODA พร้อมที่จะเป็นผู้นำยนตรกรรมแห่งอนาคตที่ยั่งยืนต่อไป
No comments:
Post a Comment